Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

การเคลือบสีรถและการขัด(Preparation Stage)

การเคลือบสีรถคืออะไร 
ทำไมต้องเคลือบสีรถ
นอกเหนือจากการล้างรถธรรมดาแล้ว สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ขั้นตอนหนึ่งในการดูแลรักษารถยนต์ของเราอย่าง ถูกต้อง คือการเคลือบสีรถภายหลังจากการล้าง ข้อดีในการเคลือบ สีรถยนต์นั้นมีมากมาย ที่เห็นได้อย่างชัดเจนในทันทีคือ ความเงางามอันเกิดจากน้ำยาเคลือบสี ซึ่งแตกต่างกันไปตามคุณภาพ และคุณสมบัติของน้ำยาเคลือบ สีแต่ละชนิด และแต่ละ ยี่ห้อในท้องตลาด ส่วนผลในระยะยาวคือ การที่ยาเคลือบสี มีส่วนช่วยในการปกป้องสีของรถไม่ให้หม่นหมอง แต่แลดูสดใสอยู่เสมอ ขณะเดียวกัน หลังการเคลือบสีแต่ละครั้ง เมื่อน้ำยาเคลือบสีเซ็ตตัวแห้งดีแล้วก็จะกลายสภาพเป็นชั้นฟิลม์อีก layer นึง ที่ช่วยปกป้องผิวสีของรถยนต์ของเราไว้ จากสภาวะแวดล้อม และมลพิษต่างๆ เช่น ออกซิเดชั่นที่เกิดขึ้น ตามท้องถนนในขณะที่มีการใช้งานรถยนต์ในแต่ละวัน เขม่าควัน ฝุ่นละอองต่างๆ ที่จะทำให้สีรถหม่นหมองในอนาคต ยังไม่รวมไปถึง คราบมูลนก ยางไม้ ฝนกรด ฯลฯ อีกมาก เราจึงสังเกตุได้ว่า รถยนต์ที่มีการเคลือบสีรถอยู่่เป็นประจำนั้น จะมีสภาพสีผิว ที่ดูใหม่ สดใสอยู่เสมอ เมื่อเทียบกับรถยนต์สีเดียว รุ่นเดียวหรือปีเดียวกัน โดยที่เราสามารถสังเกตุ เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน

การเคลือบสีรถหรือปกป้องสีตัวถังรถมีกี่ชนิดกันแน่ พอดีผมสนใจที่จะเคลือบรถใหม่มาแต่ยังตัดสินใจไม่ถูกเลย ไม่เข้าใจว่าการเคลือบสีมีตั้งแต่ถูกจนถึงแพงมันมีข้อดีและข้อเสียต่างกันยังไง 
ที่ตัวผมเองเคยได้ยินกันก็เช่นตัวอย่างนะครับ

- เคลือบด้วยขี้ผึ้งคุณภาพกลางจนถึงแพงมาก (Wax Coating)
- เคลือบแบบกระจก (Glass Coating)
- เคลือบแบบคริสตอล (Crystal Glass Coating) (มันอันเดียวกันไหมกับอันข้างบน?)
- เคลือบแบบเซรามิค (Ceramic Coating)
- เคลือบแบบเทปร่อน?? <- เคยได้ยินมา
- เคลือบ(แปะ)แบบสติ๊กเกอร์?? <- ที่เค้าเรียกว่าการแร๊ป(Wrap)
- และมีอย่างอื่นอีกไหมครับ 555+

คำถามครับ : ทั้งหมดนี้มันแตกต่างกันโดยมีข้อดี&ข้อเสียยังไงหรอครับ และมันมีวิธีอะไรนอกเหนือจากนี้ไหมครับใครก็ได้ขอความกระจ่างหน่อยครับ
ป.ล.1 พิมพ์แบบสรุปๆก็ได้นะครับ เกรงใจบางคนเขียนยาวเฟื้อยเลย

สาระเพิ่มเติม..
ขั้นตอนการเตรียมก่อนขัด (Preparation Stage)
1. ล้างรถให้สะอาด
2. หลังจากที่ล้างทำความสะอาดสีรถแล้ว จะต้องทำการกำจัดสิ่งสกปรกฝังแน่นขี้ไคล ที่ติดบนหน้าสีผิว (Contamination) สามารถสัมผัสจากการลูบ บนสีรถจะพบกับความขรุขระ ซึ่งจะถูกกำจัดด้วย OverSpray Clay (ดินน้ำมันขัดละอองสีรถ) โดยขัดลูบให้ทั่วบนตัวรถคราบสกปรกบนสีรถออกไป เมื่อสภาพสีของรถท่าน จะสะอาด พร้อมที่จะขัด หรือเคลือบสีต่อไป
3.ล้างล้อ เพื่อกำจัดคราบสนิมเบรถบนล้อ
4. ล้างน้ำเปล่าที่รถอีกรอบเพื่อกำจัดความสกปรกอีกรอบ
5. ใช้ผ้าชามัวร์วซับน้ำ ให้แห้ง
6.เป่าลมให้ทั่วทั้งคัน รวมถึงซอกต่างๆ
7. ใช้ผ้าสะอาด เช็ดตามขอบประตูต่างๆ
8. Protection Rubber ติด กระดาษกาว (Masking Tape) ทางร้านใช้ Masking Tape อย่างดีจากญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อลอกแล้ว จะไม่ทิ้งคราบกาวทิ้งไว้บนสีรถ การติด Masking Tape เพื่อป้องกันชิ้นส่วนต่างๆ ของที่เป็นพลาสติกและขอบยางที่ อาจเกิดความเสียหายจากเครื่องขัดได้

ขั้นตอนการ ลบรอยขนแมว
เนื่อง จาก การใช้ขนแกะ ขัดสีจะสร้างรอยเล็กๆ ที่เป็นวงๆ บนสีรถ ซึ่งสามารถดูได้จากรถที่ออกจากร้านที่รับขัดสีบางอู่ แต่รอยเหล่านี้จะถูกกลบด้วย Wax และจะกลับมาใหม่ด้วยการล้างรถ  ได้คิดค้นการลบรอยขนแมวโดยไม่ต้องใช้ขนแกะปั่นสีรถให้ Clear Coated ถูกทำลายลึกเกินไป ซึ่งจะใช้ฟองน้ำสีแดงขัดกับน้ำยา ซึ่งจะมีผงขัด(Compound) ใน ตัวและจะแตกตัวเล็กลง เพื่อจัดทำให้การลบรอยได้เรียบและเนียนเสมอกัน ลองสังเกตได้จากผงที่เหลือจากการขัดน้อยมากงานที่ออกมาจึงละเอียดมาก
1. ขัดลบรอยขนแมวบนสีรถออกก่อน
เนื่อง จาก การใช้ขนแกะ ขัดสีจะสร้างรอยเล็กๆ ที่เป็นวงๆ บนสีรถ ซึ่งสามารถดูได้จากรถที่ออกจากร้านที่รับขัดสีบางอู่ แต่รอยเหล่านี้จะถูกกลบด้วย Wax และจะกลับมาใหม่ด้วยการล้างรถ  ได้คิดค้นการลบรอยขนแมวโดยไม่ต้องใช้ขนแกะปั่นสีรถให้ Clear Coated ถูกทำลายลึกเกินไป ซึ่งจะใช้ฟองน้ำสีแดงปั่นกับน้ำยา ีผงขัด(Compound) ใน ตัวและจะแตกตัวเล็กลง เพื่อจัดทำให้การลบรอยได้เรียบและเนียนเสมอกัน ลองสังเกตได้จากผงที่เหลือจากการขัดน้อยมากงานที่ออกมาจึงละเอียดมาก
2. ขัดลบรอยชักเงาต่ออีกรอบ ขัดเพิ่มความเงา
3. ขัดชักเงาลึกให้ สีใส สีลื่น ดูมันวาวมากขึ้น ขัดด้วย ฟองน้ำสีครีม เป็นฟองน้ำที่นุ่มนิ่มและมีความละเอียดมาก ขัดกับน้ำยา Glossy Maker สร้างความลื่นบนสีผิว ความเงาที่ลึกล้ำเพิ่มยิ่งขึ้นสีรถจะเหมือนสีรถที่เพิ่งจะพ่นเสร็จใหม่ๆ
4. นำรถไป ล้าง ด้วยน้ำเปล่าเพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่มาติดกับรถและคราบน้ำยาต่างๆที่หลงเหลือตามซอกต่างๆของตัวรถ
5. เป่าลมให้ทั่วทั้งคัน รวมถึงซอกต่างๆ
6. ใช้ผ้าสะอาด เช็ดตามขอบประตูต่างๆ
7. ขัดรายละเอียดตามซอก ขอบที่เป็นตระกันตามจุดซ่อนเร้นต่างๆ
8. ขั้นตอนการเคลือบสี Wax to protect and shine ใช้น้ำยาเคลือบสี  เพื่อสิ่งที่เป็นที่สุด การเคลือบสีเป็นขั้นตอนสุดท้าย ช่วยให้สีของรถเงาลึกล้ำมากขึ้น  การป้องกันรอยขีดข่วน ที่จะเกิดขึ้นกับสีรถได้ยากขึ้น และควรที่จะเคลือบสี อย่างน้อย 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ สำหรับรถที่ใช้ประจำทุกวัน ในสภาพอากาศของกรุงเทพ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง สารเคมี สภาพอากาศที่ร้อนชื้น รวมถึงสภาพที่จอดรถของรถแต่ละคัน
9. ขัดทำความสะอาดในล้อ อีกรอบเพื่อความสมบูรณ์สวยงาม พร้อมทายางล้อเงา
10. ทำความสะอาด ดูดฝุ่นภายในรถ พร้อมเคลือบเบาะ
หลังจากนั้น ก็เข้าสู่ขั้นตอนการเคลือบ JGlaze ต่อไป

เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย menmen

รายการบล็อกของฉัน